ที่พักเกาะเสม็ด
เกี่ยวกับเกาะเสม็ด
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ
"สุนทรภู่" เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 เป็นบุคคลสำคัญของชาวไทยขึ้นชื่อในเชิงกวี ได้รับการยกย่องจาก องค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านวรรณกรรม และเป็นชาวไทยคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้ (เมื่อปี พ.ศ. 2529 เป็นวันครบ 200 ปี วันเกิดของสุนทรภู่)
บิดามารดา
ทางด้านครอบครัวนั้น สุนทรภู่ท่านมี บิดาเป็นชาวกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มีชื่อว่า "พลับ" และมี มารดาเป็นชาวฉะเชิงเทรา ชื่อว่า "แม่ช้อย" มีเหตุการณ์หนึ่งที่สุนทรภู่ได้เกิดไปลอบรักกับนางข้าหลวงในวังหลังผู้หนึ่งชื่อว่า "แม่จัน" ซึ่งเป็นบุตรหลายของผู้มีตระกูล เมื่อกรมพระราชวังหลังทราบเรื่องก็กริ้วและรับสั่งให้ทำโทษโดยการโบยและจำคุกทั้งสองคน แต่หลังจากที่พระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. 2349 จึงได้มีการอภัยโทษแก่ผู้ถูกลงโทษเพื่อถวานเป็นพระราชกุศล สุนทรภู่จึงได้ออกจากคุกและเดินทางกลับไปหาบิดาที่เมืองแกลง ในจังหวัดระยอง ระหว่างการเดินทางกลับไปหาบิดานี้เองที่สุนทรภู่ได้แต่ง "นิราศเมืองแกลง" อันเป็นเรื่อวราวที่เกี่ยวถึงการพรรณาสภาพระหว่างการเดินทางไว้อย่างละเอียด และที่สำคัญคือนิราศนี้แต่งให้แก่แม่จัน นางข้าหลวงที่สุนทรภู่ได้มีความสัมพันธ์ด้วย และถือว่านิราศที่แต่งขึ้นมานี้นั้นถือเป็น "ขันหมากมิ่งมิตรพิสมัย" และนิราศดังกล่าวได้บันทึกเกี่ยวกับสมณศักดิ์ฐานะของบิดาสุนทรภู่ไว้ว่าท่านเป็น "พระครูธรรมรังษี" เป็นเจ้าอาวาสวัดป่ากร่ำ ซึ่งการกลับมาที่เมืองแกลงในครั้งนี้ สุนทรภู่จึงได้แม่จันเป็นภรรยาเนื่องด้วยนิราศดังกล่าวเป็นปัจจัยประกอบที่สำคัญหนึ่ง
ภรรยาและบุตรของสุนทรภู่
เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากที่สุนทรภู่กับแม่งจันได้แต่งงานกัน สุนทรภู่กับแม่จันได้มีบุตร ด้วยกัน 1 คน ชื่อ "พัด" แต่ภายหลังหย่าร้างกันไป เพราะมีปัญหาปากเสียงอยู่บ่อยครั้ง โดยสันนิษฐานว่าเกิดจากการกระทำของสุนทรภู่ที่มีนิสัยเจ้าชู้นั่นเอง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มารดาเป็นชาวเมืองอื่น เชื่อว่าหลังจากสุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าร้างกัน บิดาออกไปบวชอยู่ที่วัดป่ากร่ำอันเป็นภูมิลำเนาเดิม ส่วนมารดาได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังหลัง ถวายตัวเป็นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล พระธิดาในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ดังนั้น สุนทรภู่จึงได้อยู่ในพระราชวังหลังกับมารดา และได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลัง สุนทรภู่ยังมีน้องสาวต่างบิดาอีกสองคน ชื่อ "ฉิม" และ "นิ่ม"
ประวัติด้านการศึกษาของสุนทรภู่นั้นท่านได้ศึกษาเล่าเรียนที่ "วัดชีปะขาว" จากพระสงค์ในวัด ต่อมาภายหลังวัดชีปะขาวดังกล่าวได้รับพระราชทานนามใหม่ในรัชกาลที่ 4 ว่า "วัดศรีสุดาราม" ตั้งอยู่ที่ริมคลองบางกอกน้อย ต่อมาได้เข้ารับราชการเป็นเสมียนนายระวางกรมพระคลังสวน ในกรมพระคลังสวน แต่ไม่ชอบทำงานอื่น นอกจากแต่งบทกลอน ซึ่งสามารถแต่งได้ดีตั้งแต่ยังรุ่นหนุ่ม และได้ฝึกการแต่งขับกลอนมาเรื่อยๆ ผ่านประสบการณ์ชีวิตที่ได้เจอ ผนวกกับจินตาการต่างๆ จนได้ออกมาเป็น ผลงาน ให้ได้เห็นและชื่นชนจวบจนปัจจุบัน
ช่วงชีวิตของสุนทรภู่นั้นส่วนใหญ่จะมีแต่เรื่องสตรี เรื่องเหล้า และการแต่งกลอน โดย ผลงาน ที่ผ่านมาของสุนทรภู่นั้นเราจะเห็นได้ว่าสุนทรภู่ได้นำเรื่องราวต่างๆ ที่ประสบพบเจอในชีวิตมาใช้อ้างอิงในการเขียนกลอนหรือบทประพันธ์ต่างๆ ตามที่ได้เห็นไป ยกตัวอย่างใน นิราศเมืองแกลง ที่สุนทภู่ได้เขียนเรื่องราวขับขานผ่านกลอนเป็นนิราศ ซึ่งในนิราศดังกล่าวเป้นเรื่องราวการเดินทางของสุนทรภู่ไปยังเมืองแกลงซึ่งเป็นเมืองเกิดของบิดาสุนทรภู่ หรืออย่างเรื่องสตรีก็จะมีในเรื่องของ พระอภัยมณี ที่ตัวละครเอกส่วนใหญ่ในเรื่องล้วนมีแต่ผู้หญิงมากกว่า หรืออย่างขุนช้างขุนแผนและอิเหนาที่เป็นวรรณกรรมที่มีเนื้อหาบางช่วงเป็นเนื้อหาของผู้ใหญ่มีการเล่าถึงการเกี้ยวพาราสีของตัวละครภายในเรื่อง เป็นต้น